เขาว่าเราบ้า แรกๆ ก็ไม่สนใจ ใคร จะ คิดยังงัย แต่ตอนนี้รู้สึกเองแล้วว่า ตัวเองบ้า
เราว่างที่สุด เราไม่มีอะรจะทำแล้วตอนนี้ มานั่งรอสาวสอบมสธ สองชั่วโมง เป็นวันที่สอง
ไม่ได้ออนไลน์ไม่ได้เล่นเน็ตไม่ได้ป้อสาวไม่ได้คุยแชท ไม่ได้ดูคลิบอะไรเลยทั้งนั้น
วันว่างๆของเรากลายเป็นวันของสาวไปสะแล้ว ... ไม่รู้จะทำอะไรนั่งรอเฉยๆเลยหยิบโน๊ตบุ๊ค
ขึ้นมาคีย์ไปเรื่อยๆเอาไว้ลงเว็บ และเอาไว้ให้คนบ้าทำตูนตามอ่านกันต่อไป
มะวานสองชั่วโมงนั่งรอสาวสอบมสธ โทรหาเพื่อนทีมีเบอร์จดไว้ในกระดาษเก่าๆ
สอดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินเก่าๆ คลี่พับออกมาสามทบ เจอเบอร์เพื่อนสนิกสองสามคน
ก็กดโทรออกไปหา แต่ละคนมันก็ไม่มีใครว่าง เลย ประชุมด่วน ทอนเงินลูกค้า
คุยอยู่กับเพื่อน แต่ก็มีเพื่อน ที่ว่างจะคุยกับเราจนกว่าเวลางานจะมาถึง
คุยเรื่องงานเพื่อน เรื่องเวลาว่างของเพื่อน ทำอะไรบ้าง ..
ตอนนี้ กุนั่งรอสาวสอบ รู้สึกว่าชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ของตัวเองสะแล้วสิ
ทำมัยต้องมา ทำมัยต้องเล่า ... จำเป็นมั้ย ไม่เลย ..
หลายๆคำที่เราเขียนคีย์ไว้มากมายพร่ำเพรื่อ คำเท่ๆ มากมายผ่านมา
มันไปอยู่ในหนังฮอลี่วู๊ดได้ยังงัย ความฝันเราจะรู้ว่ามันไม่ใช่ความจริงเมื่อเราตื่นขึ้นมาเท่านั้น
ก็คนเราโลกสื่อเดียวกันไปแล้ว หนังเรื่องเดียวกัน พ่อค้าคนเดียวกัน สินค้าตัวเดียวกัน
ที่เราใช้ที่เราคิด ที่เราค้นหา มากมายมันก็คือมวลความคิดที่หล่อหลอมมาเพื่อเป็นเราในวันนี้
แม้ว่าไม่ได้มาทั้งหมดแต่ก็น่าจะมากกว่าครึ่งหนึ่ง .. เราจึงมีอะไรๆ มีความคิดอ่าน มีจินตนาการที่ค้ลายๆกัน
เพียงแต่การนำเสนอสื่อออกมานั้น เรามีสักยภาพที่แตกต่างกัน คนนึง กับ ทีมนึง หรือกับ ขบวนการนึง
หรือ กับวงการนึง ...
จะพูดถึงหนัง .. การแต่งหนังในวันนี้ มีนิสัยค่อนข้างจะไปทางการให้ตัวเอกนั้นสำคัญมากมายก่ายกอง
อย่างแฮรีพ๊อตเตอร์ เป็นแบบอย่างของหนังสไตล์นี้ที่สุด รองลงมาก็หลอดอ๊อฟเดอะลิง และอีกมากมายตามมา
ล่าสุดเช่น หัวเหน่งผู้ควบคุมธาตุทั้งสี่ และเรื่อง ศิษย์พ่อมดเมอลิน .. ซึ้งแนววนี้ ควรจะเชยได้แล้ว
มันแตกต่างจากแนวสงครามมากมายที่ ตัวเอกนั้นจะกระจายไปตามแต่แอ๊คชั่น ไป
การดำเนินเรื่องก็มีสถานการณ์เป็นตัวเอกของเรื่องไม่ใช่ตัวละครเอกเป็นตัวนำเรื่อง
จะอธิบายยังงัยดี ให้เข้าใจตรงกันว่า แนวทางของหนังฝรั่งตอนนี้ นิยมผู้เขียนที่ค่อนข้างจะมองว่า
ตัวเอกนั้นเป็นตัว นำเรื่องที่มีความสำคัญทีสุด ในแบบบที่ เรียกว่า ตัวประกอบอื่นๆต้องคล้อยตาม
ต้องยอมรับโดยง่ายดายโดยหลักของการทำนายบ้าง สายเลือดบ้าง ผู้สืบทอด คนๆนี้แหละ
เกิดมาก็เป็นเลย ใช่เลย ตื่นมาเหมือนฝันฉันเป็น ลูกของพระเจ้า ... ทำนองนั้น
...
การทำนายเป็นไอเดียในการสร้างหนังมาโดยตลอด
หนังอนาคตหนังแนวช่างฝันเฟื่อง แนวแหวกโลก แต่แนวที่ แหวกๆ ที่ไม่ค่อยจะได้เจอเท่าไร
คือ แนว ใต้ดิน การสร้างเมืองใต้ดิน การขุดชั้นดินเพื่อเข้าไปอยู่อาศัย อาจจะเป็ฯการปกปิดความลับ ว่า ความ จริง
มีการขุดชั้นใต้ดินเพื่อเข้าไปอยู๋อาศัยกันจริงๆแล้ว อาศัยอยู๋ในชั้นหินแกรนิต ชั้นหินที่แข็.แรงที่สุด เพื่อปกป้องกันตัวเองจาก
รังสีต่างๆแรงระเบิดจากนิวเคลียร์ จากเชื่อไวรัส จากการทำนายที่ว่าโลกจะดับสูญ พวกเค้า เจาะชั้นหินแกรนิต เพื่อสร้างที่พักอาศัย
สร้างเมืองที่ทันสมัย สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลีย ชีวิตพวกเค้าตอนนี้เป็นยังงัยนะ สุขสบายดีมั้ย ข้างล่างนั้น อยู๋ได้จริงๆรึ พวกเค้ารับพลังงานแสงอาทิตย์โดย
วิธีใดหนอ .. จานกระจกสะท้องแสงอาทิตย์ยิงส่งตรงเข้าไปในรูขนาดใหญ่เปิดปิดเป็นเวลาเพื่อรับพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วแสงก็สะท้อนไปยังตำแหน่งของ
จุดต่างๆในชั้นใต้โลกที่พวกเค้าขุดไว้ อยู่กัน สะท้อนแสงใช้ได้ตลอด24ชั่วโมง พลังงานแสงอาทิตย์ส่องผ่านมาให้ใช้ได้ พวกเค้าไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่าง
โดยไม่จำเป็นอีกแล้ว .. ไอเดียนี้ น่าจะเอามาใช้บนโลกได้ คือติดกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ไว้ที่ดวงจันทร์ ให้แดดสะท้อนมายังโลกเราในเวลากลางคืน
เพื่อให้โลกกลางคืนของเรา สว่างสไวได้โดยไม่ต้องใช้แสงจากหลอดไฟ ... แสงสลัวๆอ่อนๆจากการสะท้อนกระจกเงาจากดวงจันทร์ นำแสงแดด อ่อนๆ สว่างกำลังดี มาให้เราใช้
จะมีปัญหาอะไรมั้ย หาก กลางคืนของเราไม่เคยมืด ... ชีวิตจะมีการโคจร ที่กระจายตัวมากขึ้น แบ่งชีวิตจากคนกลางวันมาอยู่กลางคืน โลกเราจะใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัว ว่าง่ายๆ
มนุษย์ได้ขึ้นไปผลิตกระจกเงาบนดวงจันทร์ และใช้ทรัพยากร บนดวงจนทร์ในการสร้างแผ่นกระจกหลายๆล้านๆชิ้นเพื่อสะท้อนแสงจากดวงอทิตย์ มายังโลก
มันได้ผล และไม่ซับซ้อน มันได้ผลดีมาก ๆ สำหรับ การประหยัดพลังงานบนโลกของเรา
เออ ไอเดียง่ายๆแบบบนี้ก็ทำให้ มนุษย์ได้พลังงาน มหาศาลมาใช้กันแล้วในอนาคต
ต้องขอขอบคุณนายทำตูน อีกครั้ง สำหรับ เรื่องนี้
http://www.movie-list.com/trailers.php?id=sorcerersapprenticehttp://www.movie-list.com/trailers.php?id=lastairbender
